สำหรับคนทำงานที่กำลังอยากเปลี่ยนงานหรือเหล่าบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังมองหางานแล้ว การได้รับโอกาสให้เข้าไปทำงานในตำแหน่งหรืออาชีพที่ชอบคงเป็นผลลัพธ์แห่ง
ความสำเร็จตามที่คาดหวัง หากจริง ๆ แล้วนี่ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางด้านการงานเท่านั้น เพราะความสำเร็จที่แท้จริงนั้นอาจจะต้องมองกันยาว ๆ และอาจจะตัดสินกันด้วยการวางแผนความก้าวหน้าในสายอาชีพหรือ Career Path โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน “วิธีการวางแผน Career Path ของตนเอง” คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อนาคตแห่งความสำเร็จในโลกของการทำงานนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เทคนิคการวางแผน Career Path ง่าย ๆ สำหรับเด็กจบใหม่
Career Path คืออะไร?
Career Path” หมายถึง “เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ” เปรียบเสมือนเข็มทิศที่ช่วยให้รู้ว่าเรากำลังทำอะไร ต้องการเติบโตไปในทิศทางไหน เป้าหมายสูงสุดในการทำงานคืออะไร และทำอย่างไรเราจึงจะเดินไปสู่จุดหมายนั้นได้อย่างมั่นคง พูดง่าย ๆ ก็คือ
การวางแผนอนาคตในการทำงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจในชีวิตการทำงาน เหมือนกับการเล่นเกมผ่านแต่ละด่านจนไปถึงการปราบลาสต์บอสในด่านสุดท้าย โดยที่ด่านสุดท้ายของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไป ทั้งการก้าวหน้าเลื่อนขั้นไปสู่ตำแหน่งสูงสุด การได้รับผิดชอบงานสำคัญที่สร้างความภาคภูมิใจ ไปจนถึงการได้ทำในสิ่งที่รักและมีความสุขกับการทำงานอย่างแท้จริง
ไม่เพียงมีความสำคัญกับเหล่าคนทำงานเท่านั้น แต่ Career Path ยังเป็นเครื่องมือที่ดีของบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในการช่วยให้พนักงานมีความก้าวหน้าในสายอาชีพ สร้างแรงจูงใจให้มีการพัฒนาตนเองเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร ซึ่งจะนำพาประโยชน์มาสู่องค์กรเพิ่มขึ้น เรียกว่าวิน-วินกันทั้งตัวพนักงานที่ได้รับความก้าวหน้าและองค์กรที่ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
วางแผน Career Path ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
แม้จะยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจริง แต่สำหรับน้อง ๆ เด็กจบใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตทำงาน การวางแผน Career Path ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เรามองเห็นทิศทางอนาคตในสายอาชีพที่มุ่งหวังได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการวางแผนเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพสามารถสร้างเองได้ไม่ยาก เพื่อให้อนาคตในการทำงานที่สดใสสวยงามนั้นอยู่
ไม่ไกลเกินเอื้อม
รู้จักและรู้ใจตัวเอง
ก่อนอื่นเริ่มต้นจากการทำความรู้จักตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ค้นหาว่าเราชอบอะไร สนใจสิ่งไหนเป็นพิเศษ ถนัดการทำงานในด้านใด แล้วเรามีทักษะ ความรู้ ความสามารถ มีจุดแข็งจุดอ่อนตรงไหนบ้างที่จะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งที่ชอบนี้ได้ดี เพื่อเป็นการค้นพบศักยภาพและคุณค่าของตัวเอง หรืออาจจะลองทำกิจกรรมอื่น ๆ ให้หลากหลาย ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ
ที่ไม่เคยทำ ซึ่งอาจพาเราไปเจอเส้นทางใหม่หรือค้นพบความถนัดที่ไม่เคยรู้ว่ามี
พัฒนาทักษะที่มีให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อค้นพบสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่แล้ว หากยังไม่แน่ใจว่าทักษะความรู้ความสามารถของเราดีและแน่นพอแล้วหรือยัง การเรียนรู้ เทคคอร์ส ฝึกฝน เพิ่มเติมทักษะต่าง ๆ ย่อมทำให้เราไปสู่เส้นทางการทำงานที่หวังไว้ได้มากยิ่งขึ้น โดยอาจจะลองศึกษาด้วยตนเอง ยิ่งในปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ตเปิดกว้างให้เรียนรู้ได้ไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งคอร์สเรียนออนไลน์ อบรมสัมมนาต่าง ๆ จะยิ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ พร้อมทั้งยกระดับความรู้ความสามารถของเราให้ก้าวไปสู่อาชีพในฝันได้ไม่ยาก
วางแผนและกำหนดเป้าหมายในการทำงาน
ถ้าเรามั่นใจในความสามารถของตัวเองอย่างชัดเจน ลองวางแผนและกำหนด
เป้าหมายต่อไป โดยอาจจะลองเขียนออกมาเป็นข้อ ๆ ว่าสิ่งที่ต้องการในการทำงานคืออะไร
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น สิ่งที่อยากทำให้สำเร็จในอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี ข้างหน้า หรือเรามองเห็นตัวเองกำลังทำงานแบบไหน ในตำแหน่งอะไร แล้วอะไรที่จะทำให้เราไปถึงจุดนั้นได้ ความสุขและความสำเร็จสูงสุดในชีวิตการทำงานของเราอยู่ตรงจุดไหน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจและกระตุ้นตัวเองให้ไปสู่จุดนั้น หรือหากไม่มั่นใจว่าเราวางแผนได้ถูกต้องขนาดไหน
ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือคนทำงานที่มีประสบการณ์ในด้านนั้น ๆ ซึ่งอาจมีคำแนะนำที่ดีและมีประโยชน์กับเราอย่างคาดไม่ถึง
ค้นหาองค์กรและตำแหน่งงานที่ตรงใจ
น้อง ๆ เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่คงจะมีบริษัทหรือองค์กรในฝันที่เล็งไว้ ก่อนจะตัดสินใจลองศึกษาทำความรู้จักองค์กรนั้น ๆ ดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติพนักงานที่ต้องการ
ข้อกำหนดด้านวุฒิการศึกษาต่าง ๆ ระบบการทำงาน ไปจนถึงอัตราเงินเดือนเฉลี่ย ว่าเป็นไปตามที่เราต้องการมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการทำงานของเรา และยังทำให้เรามองเห็นโอกาสในการเข้าไปทำงานมากขึ้น เรียกว่าเป็นเหมือนการเลือกถนนที่มั่นคงที่จะพาเราสู่ความสำเร็จที่หวังไว้
นอกจากนี้ ลองมองหาตำแหน่งงานในสายอาชีพที่เราชอบแบบกว้าง ๆ แล้วพิจารณาสายงานที่เกี่ยวข้องแยกย่อยออกไปให้ลึกซึ้งเจาะจง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานให้มากขึ้น เช่น สายงานการตลาด ที่มีตำแหน่งหลากหลาย ทั้งผู้จัดการการตลาด นักวิเคราะห์การตลาด
ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ไปจนถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีรายละเอียดและหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างกัน ไม่แน่ว่าเราอาจได้โอกาสทำงานในตำแหน่งที่เหมาะกับตัวตนของเรามากกว่าที่คิดก็ได้
ทำงานอย่างเต็มที่และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ถึงเวลาที่ได้เข้าไปทำงานอย่างเต็มตัวแล้ว สิ่งสำคัญคือ การตั้งใจทำงานอย่างเต็มความสามารถ แสดงศักยภาพที่เรามีให้เต็มที่ เมื่อหัวหน้างานหรือองค์กรมองเห็น โอกาสก้าวไปสู่ตำแหน่งหรือการเติบโตในสายงานก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปด้วย ที่สำคัญอย่าลืมหันกลับมาตรวจสอบเป้าหมายและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ พยายามเรียนรู้หรือฝึกฝนเพิ่มเติมในส่วนที่ยังขาดตกบกพร่อง เพื่อให้เส้นทางการทำงานเจริญก้าวหน้า มุ่งสู่อนาคตแห่งความสำเร็จได้ในที่สุด
น้อง ๆ เด็กจบใหม่ที่กำลังวางแผน Career Path ของตัวเอง หรือคนที่กำลังมองหางาน ไปหาข้อมูลและค้นหาตำแหน่งงานดี ๆ ได้ที่ www.jobtopgun.com หรือไปอ่านรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่ www.yousayhrsay.com